ประวัติโดยย่อ "วันลอยกระทง" ประเพณีขอขมาพระแม่คงคา

ประวัติโดยย่อ "วันลอยกระทง" ประเพณีขอขมาพระแม่คงคา

วันลอยกระทง เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญและงดงามที่สุดของไทย ตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ประเพณีนี้มีประวัติความเป็นมาและความเชื่อที่หลากหลาย แต่ที่มาที่คนไทยคุ้นเคยและสืบทอดกันมายาวนานที่สุดคือตำนานในสมัยสุโขทัย

ประวัติวันลอยกระทง
ประวัติวันลอยกระทง

ประวัติวันลอยกระทง กำเนิดจาก "นางนพมาศ" สมัยสุโขทัย

ตามหลักฐานใน ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ (หรือ ตำนานนางนพมาศ) ได้กล่าวไว้ว่า ประเพณีลอยกระทงเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัย กรุงสุโขทัย ประมาณปี พ.ศ. 1800 โดย:

  • นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วง (สันนิษฐานว่าคือพ่อขุนรามคำแหงมหาราช) ได้คิดประดิษฐ์ กระทงดอกบัว ขึ้นมาแทนการลอยโคม

  • เมื่อพระร่วงเจ้าเสด็จฯ ทอดพระเนตรกระทงดอกบัวที่ประดิษฐ์อย่างสวยงาม ก็ทรงพอพระราชหฤทัยมาก จึงมีพระราชโองการให้จัดพิธีลอยกระทงเป็นประเพณีสืบต่อกันมาทุกปีในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง

วัตถุประสงค์และความเชื่อที่หลากหลาย

แม้จะมีตำนานหลักจากสุโขทัย แต่การลอยกระทงยังถูกตีความและปฏิบัติด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันตามความเชื่อดั้งเดิม:

  • ขอขมาพระแม่คงคา: เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและขอขมาต่อพระแม่คงคา (เทวดาแห่งน้ำในคติฮินดู) ที่เราได้ใช้น้ำและทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไปในแหล่งน้ำตลอดปี

  • บูชารอยพระพุทธบาท: เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้ ณ หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทา

  • ลอยความทุกข์: เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ ลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ลอยหายไปกับแม่น้ำ

  • บูชาพระจุฬามณี: เป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

สรุป

วันลอยกระทงจึงเป็นประเพณีที่ผสมผสานความเชื่อทางศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์ และความเชื่อพื้นบ้านเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถือเป็นเทศกาลที่แสดงถึงความผูกพันของคนไทยกับสายน้ำ และเป็นวันที่ผู้คนออกมาทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสวยงามภายใต้แสงจันทร์เต็มดวง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น